11 กุมภาพันธ์ 2559

เชิญธงราชนาวีลง! เวลาเท่าไร?


เวลาท่านผ่านหน่วยทหารเรือ อาจสังเกตเห็นธงราชนาวีที่มีสัญลักษณ์ต่างจากที่เคยเห็นบนเสาธงแทนธงชาติ นอกจากนี้บางหน่วยอาจชักธงบนจุดที่ดูเหมือนจะไม่ใช่จุดสูงสุดของเสาธง และบางครั้งหลังเวลา 1800 ไปแล้วก็ยังคงชักธงค้างไว้อยู่ แต่บางวันก็ชักธงลงก่อนเวลา 1800 ก็คงอาจสงสัยกันว่าทำไมทหารเรือจึงมีธรรมเนียมและประเพณีการชักธงที่แปลกไปจากหน่วยงานราชการทั่วไป ทั้งนี้เนื่องมาจากธรรมเนียมและประเพณีของชาวเรือ สืบเนื่องมาจากการชักธงในเรือรบนั่นเอง
... เริ่มต้นจากการใช้ธง เป็นธรรมเนียมมาตั้งแต่สมัยเรือใบว่าเรือเดินทะเลจะต้องชักธงเพื่อแสดงสัญชาติ ซึ่งในสมัยก่อนยังไม่มีการทาสีเรือรบเป็นสีหมอก ทำให้อาจแยกแยะระหว่างเรือรบและเรือสินค้าได้ยาก ดังนั้นเรือรบจึงใช้ธงราชนาวีหรือธงทหารเรือ แทนธงชาติเพื่อแสดงสัญชาติและแสดงตัวตนว่าเป็นเรือรบ
... ตำแหน่งของการชักธงราชนาวีบนเรือรบ จะชักขึ้นบนเสากาฟ (Gaff) ซึ่งจะเป็นแขนยื่นออกมาตรงกลางเสาธง ช่วยป้องกันไม่ให้ธงพันเสา โดยถือกันว่าตำแหน่งของเสากาฟจะแยกออกจากเสาธงปกติ และถือว่าเสากาฟเป็นตำแหน่งสำคัญที่สุดของเสาธง ถึงแม้ว่าจะมีส่วนอื่นของเสาธงอยู่สูงกว่าเสากาฟก็ตาม ดังนั้นการชักธงราชนาวีขึ้นบนเสากาฟจึงถือว่าเป็นการชักธงขึ้นบนตำแหน่งสำคัญที่สุดของเสา
... โดยส่วนอื่นของเสาธง ได้แก่ เสาพรวน (Yardarm) ที่ยื่นออกไปด้านข้าง จะใช้สำหรับชักธงทัศนสัญญาณ
..และยอดเสาจะใช้สำหรับชักธงตำแหน่งหรือธงหมายยศของผู้บังคับบัญชาสูงสุด ณ ที่นั้น
...ธรรมเนียมการชักธงราชนาวีขึ้นบนเสากาฟ ได้ถูกนำมาใช้สำหรับหน่วยทหารเรือบนบกด้วย โดยการนำเอาเสาธงแบบเดียวกับเสาธงบนเรือมาใช้ ซึ่งจะประกอบด้วย เสาธง เสากาฟ และเสาพรวน
.. ซึ่งกองทัพเรือไทยได้กำหนดให้หน่วยกำลังรบชักธงราชนาวีขึ้นบนเสากาฟ ส่วนหน่วยสนับสนุนหรือหน่วยอื่นที่ไม่ใช่หน่วยกำลังรบ จะชักธงราชนาวีขึ้นบนยอดเสา
... ซึ่งเป็นที่มาว่าทำไมหน่วยทหารเรือชักธงไม่เหมือนกัน เช่น เสาธงหน้ากองบังคับการ อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช ชักธงราชนาวีขึ้นบนยอดเสาเนื่องจากเป็นหน่วยสนับสนุนในส่วนยุทธบริการ
.. นอกจากตำแหน่งของการชักธงขึ้นบนเสาแล้ว ธรรมเนียมและประเพณีชาวเรือยังมีเวลาการชักธงขึ้น-ลง ที่แตกต่างออกไป โดยในตอนเช้าจะชักธงขึ้นในเวลา 0800 ส่วนการชักธงลงจะกระทำที่เวลาพระอาทิตย์ตก ซึ่งเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล ทำให้อาจดูเหมือนว่ามีเวลาชักธงลงที่ไม่แน่นอน นอกจากนี้เวลาดวงอาทิตย์ตกจะมีการเปลี่ยนแปลงสำหรับเรือที่กำลังเดินทางในทะเล เช่น เรือที่เดินทางถือเข็มไปทางทิศตะวันออก จะทำให้เวลาดวงอาทิตย์ตกเร็วขึ้นกว่าเดิม ทำให้เรือรบในทะเลจะต้องคำนวณเวลาดวงอาทิตย์ตกจากบรรณสาร Almanac เป็นประจำทุกวัน ต่อมาเป็นเรื่องของการชักธงลงระหว่างเรือรบออกปฏิบัติการในทะเล เป็นธรรมเนียมว่าเรือรบที่ออกปฏิบัติการในทะเลจะชักธงราชนาวีขึ้นบนเสากาฟตลอดเวลาโดยไม่ชักธงลง เพราะถือว่าการชักลงธงคือการยอมแพ้
...ดังนั้นเรือรบในทะเลจะทำพิธีเชิญธงลงในเวลาดวงอาทิตย์ตก แล้วก็ชักธงขึ้นกลับบนเสากาฟดังเดิม
...นอกจากนี้โดยปกติเรือสินค้าเมื่อเดินเรือผ่านเรือรบจะสลุตธง หรือลดธงลงเพื่อแสดงความเคารพ
... แต่เรือรบด้วยกันเองจะไม่เคารพกันด้วยการสลุตธง มีเพียงการให้สัญญาณการทำความเคารพเท่านั้น
... สุดท้ายเป็นเรื่องของการชักธงบนเสาธงท้ายเรือ ที่กล่าวมาทั้งหมดเกี่ยวกับธรรมเนียมการชักธงบนเสากาฟ จะปฏิบัติสำหรับเรือรบที่กำลังเดินเรือในทะเลเท่านั้น แต่เรือรบที่กำลังจอด (รวมทั้งเรือรบที่กำลังเตรียมออกเรือหรือเตรียมจอดเรือ) จะไม่ชักธงขึ้นที่เสากาฟ แต่จะชักธงขึ้นที่เสาท้ายเรือแทน ทำให้บางครั้งเราก็เห็นภาพเรือรบชักธงราชนาวีบนเสากาฟ แต่บางครั้งเราก็เห็นภาพเรือรบชักธงราชนาวีบนเสาท้ายเรือ

05 กุมภาพันธ์ 2559

ท่ากายบริหาร ทร.

ถ้าเป็นทหารเรือ.. ก็ต้องจำได้ว่า ทุกคนต้องออกกำลังกาย ด้วยท่ากายบริหารเฉพาะนี้ ทุกเย็น จะต้องมา..ปี๊ด..ปี้...ปิ๊ด!

เพลงวิ่งออกกำลังกายทหาร​


วันเผด็จศึก...
 ลูกผู้ชาย สายเลือดมันแดงข้น
แต่ละคนหัวใจมันเข้ม
เมื่อเกิดมา เติมกล้าเอาไว้ให้เต็ม
เกลือมันเค็มต้องเค็มเหมือนมัน
โน่นธงไชย พริ้วไปใจเราเชื่อ
หลั่งเลือดเนื้อเพื่อเจิมธงนั่น
บุกเข้าไป ตายเถิดตายพร้อมกัน
ต่างรอวันนั้นด้วยใจระทึก
ต่างรอวันนั้นวันเผด็จศึก
ใจมันฮึกไม่นึกหวาดหวั่น
วันเดียวนั้นวันเผด็จศึก
วันจารึกอันแสนยาวนาน
ประตูชัย นั้นรอให้เราผ่าน
เลือดทหารพร้อมกันวันบุก
ปราบอธรรมนำสู่วันสันติสุข
เราทุกคนรบ รุก บุกไปพร้อมกัน
....

ทุกโขดเขิน เนินไศล ทุกไพรพฤกษ์
ห้วงเหวลึก ลำธารใส บ่รู้ร้อน
หนาวเย็น เป็นฉันใด อุปสรรคนั้นไซร้
ทางที่เราไป หากแม้นมีใคร มาขัดขวาง
ทางของเรา เราก็จะไป
ใต้แผ่นฟ้า ทั่วนที
ทั่วปฐพี ที่เราจะไป
สู้ให้ยับ สับให้ดิ้น
โหมกระหน่ำ ฝ่าฟันให้บรรลัย
.....

(ดูในประเทศอื่นๆ)


“เฮ่ เฮ้
ทะเลบ้านเรา... ทะเลบ้านเรา
ตื่นเช้า.. ตื่นเช้า
เห็นน้ำทะเล... เห็นน้ำทะเล
คลื่นซัดพัดพาถ่ายเถ
ทะเลสุดตาฟ้าไกล...”
...

"แท้.แด้.แด่ม!
มีกรรมเสียแล้วนะน้อง
พูดไปน้ำตาไหลนอง
พี่จากนวลน้องมาอยู่สื่อสาร
จะสั่งอะไร ก็สั่ง
ตัวพี่ยัง ไม่ได้ห่างไกล
สายน้ำ.. หลั่งไหล
สายน้ำ.. หลั่งไหล
กระทบหาดทราย ดังคลืนๆ
กระทบหาดทราย ดังคลืนๆ
.....



“กว้างออกไป แสนจะไกลถิ่น
ไม่เจอะแผ่นดิน หากินกลางทะเล
เปลี่ยวอุรา แสนจะว้าเหว่
เขาเรียกตังเกเร่จับปลา
โดนคลื่นโดนลม โถมกระหน่ำ
บางครั้งเรือจมคว่ำก็ต้องนองน้ำตา...
เอย... ไม่มีเวลาพักผ่อน
จากแม่กลองล่องไปกระบี่
สามวันอีกทีไปอยู่ที่ชุมพร
กลับชลกับจันทร์ปากน้ำก่อน
แวะจอดนครย้อนสงขลา
อีก สิบห้าวันถึงจะเทียบท่า
ออกจากนรากลับมามหาชัย
เอย...ก็ใจพี่คิดถึงเจ้า
โอ้ แม่เอวบาง ..ๆ
น้องนางไม่แล ..ๆ
นั่งรถติดแอร์ ..ๆ
เสียงแหว เชียวนะเจ้า ..ๆ
พอได้กินแกงหมู ..ๆ
ลืมปลาทูเหม็นคาว ..ๆ
น้องลืมเรือลำเก่า
เคยพาเจ้าออกทะเล
นี่แหละหนา เขาว่านารี
สิบห้าวันเท่านี้แม่ก็ทำเสเพล
เลิกกันที นะแม่ร้อยเล่ห์
เหมือนกับทะเลไม่อิ่มรัก
ใครขืนพะวงแล้วต้องอกหัก
เธอไม่รัก เธอไม่สน หรอกไอ้คนอย่างเรา
 เอย...ไอ้เรามันชาวทะเล”
...

https://youtu.be/GVJBVgat7J0?si=YYBsgm0fBwL4_ZgS
ขอมอบเพลงนี้ให้แก่ผู้ที่สูญเสียคนอันเป็นที่รักไปเพื่อรักษาหน้าที่ของตนอย่างสมเกียรติ




เราสามารถนำภาพมาได้บางส่วน ไม่สามารถนำมาได้ทั้งหมด ขอให้ภาพบุคคลที่นำมาเสนอนี้เป็นตัวแทนของทุกๆท่านที่ได้เสียสละชีวิตแก่ชาติบ้านเมืองของไทยเราทุกท่านทุกคนที่ได้สูญเสียไป

อยู่ไปเพื่อใคร - อนุธิดา กองราพงษ์
ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ - 天若有情 (ไทย) - (ร้องไทย) Cover by MeMai Yang

จากกันไปไกลโดยไม่ทันที่จะเอ่ยคำร่ำลากันเลยสักคำ
เหลือทิ้งไว้ก็แต่เพียงฉันกับความฝันว่าเรานั้นจะอยู่เคียงคู่กัน
เปิดเปลือกตาโปรดมองดูฉันให้ฉันรู้ว่าเธอ..ยังอยู่
ฟ้าพรากเธอจากไปไม่มีวันกลับทิ้งฉันให้อยู่ไปเพื่อใคร
จดจำคืนวันความสัมพันธ์วันเก่าๆวันที่เรา..เคยมีต่อกัน
มีเธอเดินเคียงอยู่กับฉันในคืนนั้นบนฟากฟ้าประดับไปด้วยดาว
เราต่างคนต่างแทนความรักด้วยจำนวนของดาวมากมาย
ฉันขาดเธอขาดคนช่วยมานับดาวแล้วฉันจะอยู่ไปเพื่อใคร
วอนให้ลมพัดพาหยาดหยดน้ำตาส่งไปถึงเธอ
เพื่อให้เธอได้รู้ว่ารักจะอยู่กับเรานิรันดร์

จากกันไปไกลโดยไม่ทันที่จะเอ่ยคำร่ำลากันเลย สักคำ
เหลือทิ้งไว้ก็แต่เพียงฉันกับความฝันว่าเรานั้นจะอยู่เคียงคู่กัน
เปิดเปลือกตาโปรดมองดูฉันให้ฉันรู้ว่าเธอ..ยังอยู่
ฟ้าพรากเธอจากไปไม่มีวันกลับทิ้งฉันให้อยู่ไปเพื่อใคร

วอนให้ลมพัดพา หยาดหยดน้ำตาส่งไปถึงเธอ
เพื่อให้เธอได้รู้ว่ารักจะอยู่กับเรานิรันดร์
จดจำคืนวันความสัมพันธ์วันเก่าๆ วันที่เรา..เคยมีต่อกัน
มีเธอเดินเคียงอยู่กับฉันในคืนนั้นบนฟากฟ้าประดับไปด้วยดาว
เราต่างคนต่างแทนความรักด้วยจำนวนของดาวมากมาย
ฉันขาดเธอขาดคนช่วยมานับดาวแล้วฉันจะอยู่ไปเพื่อใคร
ฉันขาดเธอขาดคนช่วยมานับดาวแล้วฉันจะอยู่ไปเพื่อใคร

......

มองหา.....
มอง มองหา ขวัญตาไปอยู่แห่งใด
มอง มองไป ขวัญใจทำไมไม่มา
เธอหลอกให้พี่มารอ
โอ้น้องมาทำพี่ได้
เป็นเพราะเหตุอันใด
ขวัญใจทำไมไม่มา..ๆ
....
สาวชาววัง..........
สาวชาววัง เอวเล็ก เอวบาง
ผัดแป้งทาหยัง
นรจ.เป็นของใครกัน
ถ้าเป็นของฉัน ฉันรักตายเลย....
...



แหงนดูดาว......
แหงนดูดาว เมื่อคราวฟ้าสาง
คนรักมาจืดมาจาง
มาเหิน มาห่าง เสียนี่กระไร
กับเราเขาไม่อยากรำ (ซ้ำ)
เขาทำกระบวนกระบิด
ไอ้เรามันแค่หนึ่งขีด(ถ้าชั้นสอง ก็เป็น"สองขีด")
ขาจีบแต่พวกมีดาว

.หมอดูทำนายรัก (หาคู่)........
เออนี่ละหนาที่จะพาให้สุขใจ
อยากจะมีคู่ไว้ ..โยนๆ
แต่ไม่รู้อยู่ไหน
หมอทำนายทายทักว่าคนรักกำลังวิ่งทน
มีตำหนิ อยู่ที่ตรงไหน
มีไฝอยู่ที่หน้า
มีอะไรบอกมา
มีตา มีจมูก
หมอทายไม่ถูก มีจมูกอยู่ใต้ตา..
...
ช้าง ช้าง ช้าง...........
ช้าง ช้าง ช้าง ช้าง ช้าง
น้องเคยเห็นช้างหรือเปล่า
ช้างมันตัวโตไม่เบา
จมูกยาว ๆ เรียกว่างวง
สองเขี้ยวใต้งวงเรียกว่างา
มีหูมีตาหางยาว
....



ดุกดุ๋ย.........
ดุกดุ๋ย ดุกดุ๋ย ๆ .. ๆ
นกกระปูดดูดฝิ่นควันฉุย
แมลงสาบอยากกินขนม
อมลูกอมซะจนแก้มตุ่ย
ควายตัวเมีย ออกลูกมาเป็นตัวเมีย
อยู่มา ไม่นาน
ออกลูกออกหลานก็เป็นตัวเมีย
....




ระบำชาวเกาะ..............
รำ..ระบำชาวเกาะ
ไพเราะเสนาะจับใจ
สายน้ำ...หลั่งไหล
สายน้ำ...หลั่งไหล
กระทบหาดทรายดั่งคลื่นๆ
กระทบหาดทรายดั่งคลื่นๆ
....
สวรรค์บันดาล.......
สวรรค์บันดาลดลให้เรามา
ให้เราสองมาพบกันวันใหม่
เจอะกันวันนี้ดีอกดีใจ
เริงรื่นกันไปไม่รู้โรยรา
จะอยู่แห่งไหน เตือนใจเตือนตา
จะอยู่เมืองฟ้า เตือนตาเตือนใจ
สวรรค์บันดาล....(ซ้ำ)
....



...งามแสงเดือน
มาเยือนส่องหล้า
งามใบหน้า เมื่ออยู่วงรำ
งามแสงเดือน
มาเยือนส่องหล้า
งามใบหน้า เมื่ออยู่วงรำ
เราเล่นกันเพื่อสนุก
เปลื้องทุกข์ ให้วายระกำ
ขอให้เล่นฟ้อนรำ
ให้สุขสำราญเอย
.............

...หล่อจริงนะดารา
งามตาจริงแม่สาวเอย
วันนี้ฉันมีความสุข
สนุกรื่นเริงฤทัย
ที่นี่เป็นแดนสวรรค์
เธอกับฉันได้ใกล้ชิดกัน ๆ
...ดนตรี..........
...ใกล้เข้าไปอีกนิด
ชิดชิดเข้าไปอีกหน่อย
สวรรค์น้อยๆ
อยู่ในวงฟ้อนรำ
รูปหล่อเขาเชิญมาเล่น
เนื้อเย็นเขาเชิญมารำ
มองมานัยน์ตาหวานฉ่ำ
มองมานัยน์ตาหวานฉ่ำ
มะ มารำกับพี่นี่เอย
.............

...เจอนางนวล
กระบิดกระบวนยั่วยวนใจชาย
ยักท่าในจังหวะระบำ
ฟ้อนรำสวยงามฉ่ำใจ
ยักคิ้วยักเอวยักไหล่
ตาชม้ายชื่นในดวงมาลย์
............


...ตามองตา
สายตาก็จ้องมองกัน
รู้สึกเสียวซ่าน หัวใจ
จะว่ารักฉันก็ไม่รัก
จะว่าหลงฉันก็ไม่หลง
ฉันยังอดโค้งเธอไม่ได้
เธอช่างงามวิไล
เหมือนดอกไม้ที่เธอถือมา
.............

...ช่อมาลี คนดีของพี่ก็มา
สวยจริงหนาเวลาวิ่งทน
สวยจริงหนาเวลาวิ่งทน
โอ้จันทร์ไปไหน
ทำไมจึงไม่ส่องแสง
เดือนมาแฝงแสงสว่าง
เมฆน้อยลอยมาบัง
เมฆน้อยลอยมาบัง
...ดอกฟ้าจะร่วง
พวงพะยอมโรยรา
ดอกฟ้าจะโรย
เมื่อลมโชยมา ถลาลงดิน
เหมือนรักเราสิ้นไม่มีเยื่อใย
ดอกฟ้าพลัดถิ่น
เคยส่งกลิ่นหอม สลักตรึงใจ
ยังไม่ทันไร ก็ร่วงโรยรา

...ยวนยาเหล ยวนยาเหล่
หัวใจว้าเหว่
ไม่รู่จะเร่ไปหาใคร
จะซื้อเปลยวน ที่ด้ายหย่อนๆ
จะเอาน้องนอน
ไกวเช้าไกวเย็น
.............
...เดือนดารา
เด่นบนฟ้า นภาขาวผ่อง
เด่นบนฟ้า น่ามอง
เชิญจับจอง คู่รักเหมือนว่า
เชิญจับจอง คู่รักเหมือนว่า
กอดอก กระไรรำพึง
คิดถึง กระไรรำพัน
จำได้ ใฝ่ฝัน
แสงจันทร์ส่องหล้า
เดือน ก็หงาย
เย็นพระพายพัดมา
เริงรื่นอุรา
ฉันอยากจะหาคู่ใจ
ฉันอยากจะหาคู่ใจ
เดือนปรานี
อย่าหลบลี้ ให้เดือนหนีหน้า
เจ้าโปรดได้ เมตตา
เวทนา คู่ชมชิดใกล้
เวทนา คู่ชมชิดใกล้
กอดหน่อย เจ้าคงยินยอม
ขอหอม เจ้าคงยินดี
จะไม่ หน่ายหนี
ให้พี่ หม่นไหม้
เดือนรูปงามสวยรวยน้ำใจ
คงเอื้อ เยื่อใย
ฉันผู้ยากไร้ แน่เอย
ฉันผู้ยากไร้ แน่เอย
.............

ลั่นเอย.. ลั่นทม ..
ฉันเคยเด็ดดม . ฉันเคยเด็ดเล่น..
เด็ดเช้า.. เด็ดเย็น..
ฉันเคยเด็ดเล่น..ๆ จนเป็นลม..
วิ่งเอย.. วิ่งทน ..
ฉันเคยวิ่งทน.. ฉันเคยวิ่งเล่น.
วิ่งเช้า.. วิ่งเย็น..
ฉันเคยวิ่งเล่น.ๆ จนเป็นลม..
.....

สื่อสาร..ของเรานี่เอ๋ย.
ไม่นึกเลย จะมีตาหวาน..
สวยนัก.. รักเธอมานาน ๆ
ไม่อยากกลับบ้าน เสียแล้วนี่เอยฯ
.....

มดแดงแฝงพวงมะม่วง
แสนเป็นห่วงเจ้ามดแดง
จีบกันไป.. จีบกันมา
อดยัดห่า ทำตาแดงๆ
...

กล่าวฝ่ายพระอภัยมณี..
มานั่งเป่าปี่อยู่กับนางละแวง..
เอย!.. อยู่กับนางละแวง..
นางละแวงแสนจะแค้นใจ
ที่พระอภัยไม่ยอมบรรเลง..
เอย!.. ไม่ยอมบรรเลง..
นางจึงจับปี่ขึ้นเขย่า..
แล้วนั่งชันเข่า เป่ามันเสียเอง
เอย!..เป่ามันเสียเอง..
พระอภัย ร้องว่า.. อย่า..ๆ
ตีสี่ตีห้า. จะลุกขึ้นมาบรรเลง..
เอย!.. ลุกขึ้นมาบรรเลง.
....


รักสาวเสื้อลาย
เนื้อเพลง : รักสาวเสื้อลาย
ศิลปิน : แสงสุรีย์ รุ่งโรจน์

..น้องใส่เสื้อลาย
ไฉไลจริงหนอโฉมยง
จมูกน้องนางก็โด่ง
คิ้วโค้งเหมือนวงรูปเคียว
สาวใดว่าสวย
สวยก็ยัง ไม่ถึงครึ่งเสี้ยว
ใส่เสื้อดอกลายสีเขียว
สวยนักเชียว ติดตรึงซึ้งใจ
ผมดกอกตึง
เต่งตึงซึ้งใจจริงจริง
ปลอมแปลงแต่งเติมทุกสิ่ง
หรือว่าของจริงทรามวัย
เสื้อลายตัวนี้
โถสวยดีใครหนอซื้อให้
ขอจับดูหน่อยได้ไหม
นิ่มมือหรือ
ไม่เสื้อลายคนดี
ขอจับแต่เสื้อ
จะไม่ให้ถูกเนื้อน้อง
สวยจริงเนื้อทอง
เสื้อลายของน้องตัวนี้
ราคาเท่าไร
ซื้อมาจากไหนคนดี
แต่งตัวสวยสวยอย่างนี้
คนดีมีแฟนหรือยัง
ถ้าหากทรามวัย
ไม่เป็นของใครยังโสด
วันนี้พี่ต้องขอโทษ
โปรดคิดเห็นใจเถิดหนา
อย่าเคืองอย่าแค้น
ขอเป็นแฟนควงแขนร้อยชั่ง
หากเจ้าไม่มีที่หวัง
ขอจองน้องนาง นาทีนี้เลย
..ขอจับแต่เสื้อ
จะไม่ให้ถูกเนื้อน้อง
สวยจริงเนื้อทอง
เสื้อลายของน้องตัวนี้
ราคาเท่าไร
ซื้อมาจากไหนคนดี
แต่งตัวสวยสวยอย่างนี้
คนดีมีแฟนหรือยัง
ถ้าหากทรามวัย
ไม่เป็นของใครยังโสด
วันนี้พี่ต้องขอโทษ
โปรดคิดเห็นใจเถิดหนา
อย่าเคืองอย่าแค้น
ขอเป็นแฟนควงแขนร้อยชั่ง
หากเจ้าไม่มีที่หวัง
ขอจองน้องนาง นาทีนี้เลย
.....


ทหารพิการรัก
เนื้อเพลง : ทหารพิการรัก
ศิลปิน : เกื้อ อุสาหะกานนท์

...ดนตรี...
..ฉันเองต้องถูกญาติเธอกีดกัน
เพราะตัวฉันมันพิการอย่างนี้
ไปรบกลับมาแขนขาไม่ดี
เพราะเป็นหน้าที่
ชาติชายอย่างฉัน
..แล้วเธอต้องกลับ
พบความอับอาย
ฉันมีร่างกาย
ไม่เหมือนก่อนนั้น
เธอเหมือนนางฟ้า
สวยผ่องพรรณ
เป็นนางพยาบาล
ที่งามทั้งกายและใจ
ฉีดยาให้ฉันตายไปเถิดหมอ
นี่เป็นคำขอร้องของคนไข้
แม้เราจะเคยรักกันเพียงใด
ฉันก็คงไม่ ให้ความสุขสม
..ขอเธอจงปล่อยฉันไว้ห่างตา
เห็นเธอยิ่งพาหัวใจขื่นขม
ฉันนี้อยู่ไปเปลืองน้ำเปลืองนม
ใจร้าวระบม
เกินกว่าจะพยาบาล..

.....ดนตรี.....
..ฉีดยาให้ฉันตายไปเถิดหมอ
นี่เป็นคำขอร้องของคนไข้
แม้เราจะเคยรักกันเพียงใด
ฉันก็คงไม่ ให้ความสุขสม
ขอเธอจงปล่อยฉันไว้ห่างตา
เห็นเธอยิ่งพาหัวใจขื่นขม
ฉันนี้อยู่ไปเปลืองน้ำเปลืองนม
ใจร้าวระบม
เกินกว่าจะพยาบาล..
....

อยุธยาเมืองเก่า
.
อ. อ่าง ๆ ย.ยักษ์
ย.ยักษ์ ๆ สระอุ
สระอุ ๆ ธ.ธง
ธ.ธง ๆ ย.ยักษ์
ย.ยักษ์ ๆ สระอา...
อยุธยาเมืองเก่าของเราแต่ก่อน
จิตใจอาวรณ์มาเล่ากันสู่กันฟัง
อยุธยาแต่ก่อนนี้ยัง
เป็นดังเมืองทองของพี่น้องเผ่าพงศ์ไทย
เดียวนี้ซิเป็นเมืองเก่า ..เก๊า.เก่า
ไทยเราแสนเศร้าถูกข้าศึกรุกราน
ชาวไทยทุกคนหัวใจร้าวราน
ข้าศึกเผาผลาญแหลกลาญวอดวาย
ชาวไทยทุกคนดูแล้วเศร้าใจ
อนุสรณ์เตือนให้ชาวไทยจงมั่น
สมัครสมานร่วมใจกันสามัคคี
คงจะไม่มีใครกล้าราวีชาติไทย
.....

ศึกบางระจัน

ศึก บางระจัน จำให้มั่นพี่น้องชาติไทย
เกียรติประวัติสร้างไว้
แด่ ชนชาติไทยรุ่นหลัง
แม้ ชีวิต ยอมอุทิศเพื่อชาติอับปาง
เลือดไทย ต้องมาไหลหลั่ง
ทา ทั่วพื้นแผ่นดินทอง

ไทย คงเป็นไทย มิใช่ชาติเป็นเชลย
ไทย มิเคย ถอยร่นชนชาติศัตรู
บางระจัน แม้สิ้นอาวุธจะสู้
สองดาบฟาดฟันศัตรู สู้จน ชีพตนมลาย

ตัว ตาย ดีกว่าชาติตาย
เพียงเลือดหยาดสุดท้าย ขอให้ไทยคงอยู่
แดน ทอง ของไทยมิใช่ศัตรู
แม้ใครรุกรานต้องสู้ เพื่อกู้ แหลมถิ่นไทย