16 เมษายน 2557

ชีวิตในรั้วนักเรียนจ่าทหารเรือ

-จากเรื่องราวของ.. การใช้ชีวิตเป็นนักเรียนจ่าทหารเรือ..นั้นดูจะได้รับความสนใจจากหลายๆท้่าน จึงขอนำเอาสภาพความทรงจำชีวิตในรั้ว รร.ชุมพลทหารเรือ และ รร.ไฟฟ้าและอิเล็คทรอนิค ป้อมพระจุลจอมเกล้า มาเสนอเพิ่มเติมต่อไป ..อันว่าชีวิตของผู้มีหน้าที่ปกป้องอธิปัตไตยให้แก่ประเทศชาติและพระราชานั้น จำเป็นจะต้องเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ เด็ดเดียว สุขุม เยือกเย็น เด็ดขาด แน่นอน มีระเบีบียบ วินัย กล้าหาญ อดทน เชื่อฟังคำสั่งของผู้บังคับบัญชา เพื่ิอให้เป็นไปในแนวทางเดียวกันทั้งกองทัพ ด้วยว่า พระราชาในสมัยก่อน เป็นผู้นำกองทัพด้วยตนเอง มีแม่ทัพนายกอง หัวหมู่ต่างๆ ตลอดจนถึงทหารแนวหน้ากล้าตายทั้งหลาย เป็นกองทัพอันเกรียงไกรสมพระเกียรติยศพระราชา ดังนั้นบรรดานายทหารระดับสูงจนถึงพลทหารแนวหน้า ต้องกล้าตายเช่นดั่งพระราชาในอดีต เช่นสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ท่านก็มีนายทหารเอกคู่พระทัย เป็นผู้นำทัพแทนพระองค์ได้ในทุกสนามรบ คือสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ซึ่งต่อมาก็คือสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชนั่นเอง ..หากเรามองย้อนหลังกลับไปจะเห็นได้ว่าทั้งสองพระองค์ท่านก็ต้องใช้ชีวิตไต่เต้ามาจากข้าราชการชั้นผู้น้อยมาก่อนเช่นกัน ก่อนจะใช้ชีวิตเป็นเจ้าแผ่นดินปกครองอาณาไพร่ฟ้าประชาชน ท่านก็ต้องเป็นผู้อยู่ใต้การปกครองของแม่ทัพนายกองต่างๆมาก่อนเช่นกัน ท่านจึงต้องเป็นผู้มีความอดทน อดกลั้นต่อบรรดาคำสั่งต่างๆจากเบื้องบนมาก่อนทั้งสิ้น จึงต้องเข้าใจชีวิตการเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา.. ..ที่อารัมภบทมาก่อนนั้น เพื่อให้เห็นภาพว่า เราเข้ามาใช้ชีวิตการเป็นนายทหารชั้นประทวน ปกครองพลทหาร และอยู่ใต้การปกครองของนายทหารสัญญาบัตร ในขณะอานุยุรุ่นราวคราวเดียวกัน เราต้องยอมรับสภาพความเป็นจริงที่จะทำงานร่วมกัน ..ชีวิตของเด็กวัยรุ่นหนุ่ม กำลังกล้าแข็งต้องถูกฝึกฝนให้ใช้อาวุธยุทโธปกรณ์อย่างคล่องแคล่วว่ิองไว ต้องอดทนต่อสถานการณ์อันเลวร้าย และยากจะฝ่าฟันให้ผ่านพ้นไปได้ ฉะนั้นการฝึกให้ร่างกายเข้มแข็ง เพื่อให้เกิดพละกำลังในการต่อสู้ มีปฏิภาณไหวพริบในการใช้ปัญญาแก้ไขให้อุปสรรคผ่านพ้นไปได้อย่างปลอดภัย เพราะทหารทำงานที่เสี่ยงต่อความเป็นความตายของชีวิต ทุกวินาที ต้องมีสติสัมปชัญญะ ในการใช้อาวุธอย่างถูกต้อง เชื่อฟังและเคารพในคำสั่งของผู้บังคับบัญชา .. นักเรียนจ่าทหารเรือก็เช่นกัน ไม่ว่าเราจะอยู่ในพรรคเหล่าอะไรก็ตาม ความพร้อมทางร่างกายต้องแข็งแรงอยู่เสมอ พร้อมเข้าสู่สนามรบอย่างทันท่วงที เมื่อเริ่มต้นวันแรกที่เราสะพายกระเป๋าเสื้อผ้าเข้ามาในรั้ว รร.ชุมพลทหารเรือ ในวันแรกของภาคสาธารณะ เราก็ต้องถูกทำโทษด้วยการวิดพื้น ปั๊ม พุ่งหลัง ตามมาด้วย ฮาโล่ เหี้ยตะกายตึก ฯลฯ ในวันต่อๆมา เพื่อให้เรารู้จักเชื่อฟังคำสั่งของผู้บังคับบัญชา และให้เรารู้จักระเบียบวินัย คือสอนแบบปฏิบัติไปด้วยในตัว เราจึงจบออกไปอย่างทหารผู้มีระเบียบวินัย เข้มแข็ง และอดทนต่อสถานการณ์อันยากลำบาก ทำให้ภาระกิจของกองทัพและประเทศชาติมีความสำเร็จได้เพราะกำลังจากพวกเรา ..ในภาคสาธารณะนี้ ทุกพรรคเหล่า ต้องมาใช้ชีวิตอยู่อย่างคละกันทุกพรรคเหล่า ถูกจัดให้มากินมานอนและใช้ชีวิตร่วมกันเป็น ตอน ภาค กราบ(เรือ)การจัดการปกครองเช่นนี้ทำให้เมื่อจบมา พรรคเหล่าอื่นๆที่ต้องทำงานร่วมกัน สามารถผสานงานกันอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะเคยกอดคอถูกทำโทษมาด้วยกัน นำมาพูดคุยเป็นตำนานความลำบากยากเข็น อาบเหงื่อต่างน้ำมาด้วยกัน มันเป็นความประทับใจที่ผู้ผ่านมาด้วยกันยากจะลืมไปจนวันตาย การเรียนในภาคนี้ เราถูกฝึกให้ต้องปรับตัวจากพลเรือน มาเป็นทหารอาชีพ เป็นหัวหน้าหมู่พลทหาร รู้จักการออกคำสั่งแก่พลทหาร และรับคำสั่งจากนายทหาร เราจึงถูกฝึกให้มีระเบียบวินัย ด้วยการฝึกการสวนสนาม การวิ่งออกกำลังกาย การใช้ชีวิตแบบทหารเรือ เช่นการใช้เรือกรรเชียงจากเรือใหญ่เข้าหาฝั่ง การใช้ลูกดิ่งวัดความลึกในทะเล การใช้เชือกผูกสิ่งของ และเรือ และสิ่งต่างๆที่เป็นรายละเอียดที่สำคัญปลีกย่อยอีกมาก เช่น เรียนและฝึก สัญญาณระฆัง สัญญาณนกหวีดเรือ,ธง,เสาธง,เครื่องหมายพรรคเหล่า,ยศ และอื่นๆที่เป็นรายละเอียดที่ต้องเข้าไปศึกษาจึงทราบได้ ..เมื่อจบจากภาคสาธารณะแล้ว รุ่นเราก็ต่างแยกย้ายเข้ารร.ภาคอาชีพ ของแต่ละพรรคเหล่าจะต่างสถานที่ และเวลาของการเรียนก็ต้่างกันไป แต่พรรคพิเศษช่างยุทธโยธาเหล่าไฟฟ้าของเราทั้ง19นาย(ขณะแรกเข้า) คือ รร.ไฟฟ้าและอิเล็คทรอนิคส์ กรมอู่ทหารเรือ(ในขณะนั้น) สถานที่เรียนร่วมกับ รร.สื่อสารทหารเรือ ป้อมพระจุลจอมเกล้า แหลมฟ้าผ่า พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ได้มาศึกษาระบบไฟฟ้าทั้งในเรือ และบนบก แต่เน้นไฟฟ้าบนบกมากกว่า เพราะจบแล้วมาเป็นผู้ทำหน้าที่ควบคุมระบบไฟฟ้าในหน่วยงานกองทัพเรือทั่วไป แต่การฝึกฝนเรื่องระเบียบวินัย ก็ยังไม่ลดละตลอด 2 ปียังต้องถูกทำโทษตลอดเกือบทุกวัน จนพวกเราจบหลักสูตร ได้รับการประดับยศจ่าตรี รับเงินเดือน และสิทธิของข้าราชการประจำ ในระดับนายทหารชั้นประทวน และแยกย้ายไปประจำตำแหน่งในกองทัพเรือ ทำหน้าที่ในกองทัพและประเทศชาติให้สมบูรณ์ สืบต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น